วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประวัติของ เนย์มาร์

ประวัติเนย์มาร์
ชื่อ-นามสกุล : “เนย์มาร์” ดา ซิลวา ซานโต๊ส จูเนียร์
วันเดือนปีเกิด : วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1992
สถานที่เกิด : โมกิ ดาส ครูซเซส ประเทศบราซิล
ส่วนสูง : 174 เซนติเมตร
อาชีพ : นักฟุตบอล (กองหน้า)
กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติบราซิล ยอมรับแล้วว่า ตนเองจะย้ายจาก ซานโต๊ส ในบ้านเกิด ไปค้าแข้งกับทีม บาร์เซโลนา ในสเปน หลังจากเนื้อหอมได้รับความสนใจจากหลายทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา…
ประวัติครอบครัว
- เนย์มาร์ เกิดที่ โมกี ดาส ครูเซส เซาเปาโล โดยมีพ่อแม่ชื่อว่า เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซีเนียร์ อดีตนักฟุตบอล และ นาดิเน ซานโตส โดย ปัจจุบัน พ่อของเขา กลายเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของ เนย์มาร์
- เนย์มาร์ เติบโตมาพร้อมกับการรักในการเล่นฟุตซอล และ สตรีทฟุตบอล
- ในปี 1992 เนย์มาร์ ยังไปอยู่กับ ครอบครัว ที่ เซา บิเซนเต และเป็นจุดเริ่มของการเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับทีม โปรตุเกซา ซานติสตา จากนั้น ในปี 2003 ครอบครัว ย้ายไปที่ เซาเปาโล และ เนย์มาร์ ก็ได้ร่วมทีม ซานโต๊ส เอฟซี ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
- ในเดือนพ.ค.ปี 2011 เนย์มาร์ เพิ่งรู้ว่า ตัวเองมีลูกชาย ชื่อว่า “ดาวี ลุซซี” ซึ่งเกิดเมื่อเดือนส.ค.ปี 2011 กับสาววัย 17 ปี และอีก 4 วันหลังจากนั้น เขาก็ประกาศอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ตนเอง ว่าเขากลายเป็นพ่อคน เมื่อตอนอายุเพียง 19 ปี อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของหญิงสาวผู้เป็นแม่รายนี้
ประวัติการเล่น
ระดับอาชีพ 2009- ปัจจุบัน บาร์เซโลนา
ระดับเยาวชน 2003-2009 ซานโต๊ส
ระดับทีมชาติ
2010-ปัจจุบัน ทีมชาติบราซิลชุดใหญ่
2009-2011 ทีมชาติบราซิล ชุดยู-17,ยู-20
ผลงานและเกียรติประวัติที่ผ่านมา
ระดับสโมสร
- โคปา เดอ บราซิล : 2010
- คัมปิโอนาโต เปาลิสตา : 2010, 2011, 2012
- โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส : 2011
- เรโคปา ซูดาเมริกานา : 2012
ระดับทีมชาติ
- ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์อเมริกาใต้ : 2011
- ซุปเปอร์คลาสิโก เดอ ลาส อเมริกาส : 2011, 2012
- เหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ : 2012
ระดับส่วนตัว
- ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน คัมปิโอนาโต เปาลิสตา (1): 2009
- กองหน้ายอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน คัมปิโอนาโต เปาลิสตา (3): 2010, 2011, 2012
- นักเตะยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน คัมปิโอนาโต เปาลิสตา (3): 2010, 2011, 2012
- นักเตะยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส (1): 2011
- ติดทีมยอดเยี่ยมการแข่งขันคัมปิโอนาโต บราซิเลียโร ซีรีเอ (2): 2010, 2011
- อาเธอร์ เฟรเดนไรช์ อวอร์ด (1): 2010
- รองเท้าทองคำ รวมทุกรายการในบราซิล (2): 2010, 2011
- ดาวซัลโว โคปา โด บราซิล (1): 2010
- ดาวซัลโวฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์อเมริกาใต้ (1): 2011
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปอเมริกาใต้ (1): 2011
- ฟีฟ่า ปุสกัส อวอร์ด (1): 2011
- ดาวซัลโว คัมปิโอนาโต เปาลิสตา (1): 2012
- ดาวซัลโว โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส (1): 2012

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประวัติ คริสเตียโน โรนัลโด

กริชเตียนู รูนัลดู ดูช ซังตูช อาไวรู (โปรตุเกส: Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro) (เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1985) หรือรู้จักกันในชื่อ คริสเตียโน โรนัลโด (โปรตุเกส: Cristiano Ronaldo) เป็นนักฟุตบอล ชาวโปรตุเกส ปัจจุบันสังกัดอยู่กับสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด ใน ลาลีกา เล่นในตำแหน่ง กองหน้า และเป็นกัปตันทีม ของ ฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสคนปัจจุบัน โรนัลโดเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ฟุตบอลรองจากแกเร็ธ เบลหลังย้ายจาก แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มาอยู่กับ เรอัลมาดริด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์, โรนัลโดได้รับค่าจ้างในการลงเล่นให้กับ เรอัลมาดริด จำนวน 12 ล้านปอนด์ต่อปี ทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก,[2]. โรนัลโดได้ลงเล่นฟุตบอลในนามทีมเยาวชนของ อันดูรินญา เมื่อเขาเล่นได้อยู่สองปี, ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ นาซีอองนาล.ในปี 1997 เขาได้เซ็นสัญญาให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง สปอร์ติงลิสบอน. โรนัลโดได้ถูกพิจรณาย้ายตัวไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยคนที่ซื้อเขาคือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซื้อตัวเขามาด้วยจำนวนเงิน 12.24 ล้านปอนด์ ในปี 2003, โรนัลโดได้แชมป์ เอฟเอคัพ ซึ่งเป็นเกียรติประวัติแชมป์แรกของเขาในปี 2003. โรนัลโดลงเล่นในเกมส์ของ ฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส ในระดับชาตินัดแรกคือตอนเจอกับ คาซัคสถาน ในเดือนสิงหาคม 2003.และหลังจากนั้นเขาได้ลงเล่นมากขึ้นรวมทั้งหมดถึงห้าทัวร์นาเมนต์; ยูโร 2004, ฟุตบอลโลก 2006, ยูโร 2008. ฟุตบอลโลก 2010 และ ยูโร 2012 เขาทำประตูแรกในนามทีมชาติโปรตุเกสได้ในการแข่งขันยูโร 2004 ในนัดเปิดการแข่งขันที่เจอกับ กรีซ เขาเป็นคนสำคัญในการนำทีมชาติโปรตุเกสเข้าไปชิงชนะเลิศในปี 2004.และหลังจากนั้นโรนัลโดได้มีบทบาทและได้ลงตำแหน่งตัวจริงมากขึ้น. ในปี 2008 โรนัลโดได้เป็นกัปตันทีมครั้งแรกของทีมชาติโปรตุเกสได้นำทีมเข้าแข่งขัน ยูโร 2008 สามารถเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศได้ เขาสามารถยิงได้สามประตูในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้. ในวันที่ 16 ตุลาคม 2012 โรนัลโดได้ลงเล่นครบ 100 นัดสำหรับทีมชาติโปรตุเกสในนัดที่เจอกับ ไอร์แลนด์เหนือ ทำให้เข้าเป็นหนึ่งในสามนักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกสเกิน 100 นัด.[3]. ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของเขาได้มีคนติดตามถึง 50 ล้านคน.[4] ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 มีการจัดอันดับตำแหน่งนักเตะรูปงามแห่งยูโร 2008 จัดทำโดยแอลจี บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า คริสเตียโน่ โรนัลโดได้รับคะแนนโหวตครั้งนี้เป็นอันดับ 1[5] ในปี 2012 โรนัลโดได้รับรางวัลนักกีฬาอิเบโร่-อเมริกัน ประจำปี 2012 ประเภทนักฟุตบอลชาย[6]